บันทึกประสบการณ์​ ขอสัญชาติออสเตรเลีย (Australian Citizenship)

Napawan Srisuksawad
5 min readNov 25, 2022

--

**เป็นการบันทึกประสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้น สำหรับคนที่ต้องการข้อมูลด้านการย้ายถิ่นฐานจริงๆ แนะให้ปรึกษา Immigration Agent ที่มีทะเบียนถูกต้องเท่านั้น**

เมื่ออยู่ออสเตรเลียอย่างถูกกฏหมายขั้นต่ำ 4 ปี โดยปีสุดท้ายเป็นวีซ่าถาวร (PR) เราก็จะมีสิทธิ์ในการขอสัญชาติออสเตรเลีย เพื่อเข้าถึง Benefits ที่มากขึ้น โดยแน่นอน สิ่งที่ทุกคนจดจ่อกัน คือการที่จะได้ถือ Passport ที่ค่อนข้างดี สามารถเดินทางไปได้แทบจะทั้งโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า รวมถึงมีสิทธิ์สมัครวีซ่าบางอย่าง ที่สมัครได้เฉพาะพาสปอร์ตออสเตรเลียเท่านั้น (ตัวอย่างเช่นวีซ่า Work and Holiday ของแคนาดา ที่เปิดให้ Australian Citizen อายุ 18–35 สมัคร กำลังคิดจะย้ายไปแคนาดาเหมือนกัน ส่วนนิวซีแลนด์ จะได้ Resident Visa On Arrival อยู่แล้วทั้ง Citizen และคนถือ PR)

นอกจากนั้น จะมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่นกรณีจะเรียน เราก็จะสามารถทำการกู้เงินมาเรียนก่อน แล้วจ่ายคืนทีหลังได้ โดยไม่เสียดอกเบี้ยเลย (PR ได้จ่ายค่าเทอมราคา Domestic แต่ไม่มีการกู้ ต้องจ่ายเงินเอง จริงๆมีการกู้เหมือนกันสำหรับ PR แต่จะเป็นเงื่อนไขพิเศษบางอย่าง) สำหรับคนมีลูก ลูกที่เป็น Citizen เรียนฟรีจนถึงเกรด 12

นอกจากนั้น การทำงานบางประเภทจะต้องมีการใช้ Security Clearance เช่นงานราชการทั้งหลาย (ส่วนมากจะอยู่ในเมืองหลวง Canberra) เราก็จะต้องเป็นคนสัญชาติออสเตรเลียก่อน

รวมถึงกรณีที่ต้องการซื้อบ้าน จะมีโครงการของทางรัฐบาลกลาง ที่เปิดโอกาสให้ดาวน์บ้านด้วยเงินที่ค่อนข้างน้อย (5%) ซึ่งก็เป็นสิทธิพิเศษ ที่คนถือ PR ไม่ได้รับสิทธินี้ (PR มีสิทธิ์แค่โครงการซื้อบ้านหลังแรก ตามของแต่ละรัฐ) ล่าสุดมีการเพิ่มที่ จาก 10,000 ที่ต่อปี เป็น 35,000 ที่ต่อปี ทำให้หลายคนได้มีโอกาสซื้อบ้านง่ายขึ้น

สำหรับคนไทยนั้น ค่อนข้างโชคดี เพราะสามารถถือสองสัญชาติได้ (จริงๆตามกฏหมายนั้นห้าม แต่ไม่มีบทลงโทษที่ชัดเจน เลยเป็นการปล่อยเลยตามเลย อย่างไรก็ตาม กรณีอยู่ที่ประเทศไทย รัฐบาลจะ Recognise สัญชาติไทยเท่านั้น แต่เดาว่า สามารถเข้าถึงบริการต่างๆของทางออสเตรเลียได้เช่นกัน) โดยจะไม่เหมือนคนจีน คนอินเดีย ที่จะต้องสละสัญชาติก่อน (ส่วนใหญ่คนจีนไม่สละ เพราะน่าจะสละยาก ส่วนใหญ่จะจบที่ PR แล้วก็อยู่ไปเรื่อยๆ ส่วนคนอินเดียร้อยละ 99 สละสัญชาติและทำการขอสถานะ OCI ที่เป็นเหมือน PR ของอินเดียสำหรับคนที่สละสัญชาติไปแล้ว)

เอกสารที่ต้องใช้

  1. ใบเกิดตัวจริง หรือเอกสารที่มีการระบุชื่อพ่อชื่อแม่ผู้ให้กำเนิด เช่น ทะเบียนบ้าน
  2. หลักฐานแสดงที่อยู่ปัจจุบัน เช่น ใบขับขี่ออสเตรเลีย หรือ สัญญาเช่าบ้าน บิลค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าบัตรเครดิตทั้งหลาย
  3. หลักฐานสัญชาติปัจจุบัน โดยมาก จะเป็นหนังสือเดินทางไทย
  4. Police Check ของออสเตรเลีย (มีอายุ 12 เดือน ถ้าใช้จากขอ PR จะต้องขอใหม่ เพราะเกิน 12 เดือน)
  5. Police Check ของไทย (ใช้ของเดิมได้ ถ้าอยู่ไทยไม่เกิน 90 วัน ระหว่างช่วงที่ถือ PR)
  6. หลักฐานการเดินทางมาถึงออสเตรเลียครั้งแรก (สมัยนี้จะไม่มีตราปั๊มแล้ว จะต้องทำการขอ Record Movement https://immi.homeaffairs.gov.au/help-support/departmental-forms/online-forms/request-international-movement-records) ส่วนถ้าใครมีตราปั๊ม ใช้ตราปั๊มได้
  7. แบบฟอร์ม Identity Declaration 1195 https://immi.homeaffairs.gov.au/form-listing/forms/1195.pdf โดยต้องให้คนที่เป็น Australian Citizen และอยู่ในอาชีพที่กำหนด ทำ Declaration (ส่วนมากจะเป็น GP ที่ตัวเองใช้ เพราะถือว่าเป็นคนที่รู้จัก ปรึกษากันมานาน แต่ถ้าจะเป็นคนอื่นก็ได้ แต่ต้องเป็น Citizen และทำอาชีพตามที่กำหนด)
  8. รูปภาพตัวเอง ไซส์ Passport ไม่เกิน 6 เดือน โดยให้คนที่เซ็นฟอร์มข้อที่ 7 เป็นคน เซ็นรับรองหลังรูปด้วย

สมัคร

สำหรับ Citizenship by Conferral สำหรับคนถือ PR จากวีซ่าประเภท Skilled หรือ วีซ่าแต่งงาน สามารถสมัคร Online ได้จาก ImmiAccount โดยการสมัครจะต้องการทำการสมัครภายในประเภทออสเตรเลียเท่านั้น กรอกรายละเอียดต่างๆตามใบสมัคร https://immi.homeaffairs.gov.au/form-listing/forms/1300t.pdf อันนี้จะเป็นแบบฟอร์มสำหรับสมัครทางกระดาษยื่นไปรษณีย์ แต่ของออนไลน์ คำถามจะเหมือนกัน ต่างกันแค่ไปกรอกในคอมพิวเตอร์

หลังการสมัคร

เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องรอให้ทางกระทรวง เรียกเข้าไปสัมภาษณ์และทดสอบ ซึ่งระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับว่า อยู่ในพื้นที่ไหน มีคนสมัคร มี backlog ค้างเป็นจำนวนมากมั๊ย สำหรับซิดนีย์ NSW ระยะเวลารอปัจจุบันคือ 6 เดือน แต่อาจจะเร็วหรือช้ากว่านี้ได้ กรณีใบสมัครมีความแตกต่างกัน

เว็บไม่ official ที่ใช้ดูว่าถึงคิวหรือยัง ให้ดูที่ https://myimmitracker.com/en/au/trackers/citizenship-processing-tracker โดยมาก คนที่ทำการสมัครไว้จะมาลง case ตัวเอง แล้วก็อัพเดทเรื่อยๆว่าใกล้ถึงคิวหรือยัง

เมื่อถึงคิว เราจะได้อีเมลล์เข้ามา บอกว่าวันที่เรียกเข้าไปสัมภาษณ์และทดสอบเป็นวันไหน ถ้าไม่สะดวก หรืออยากได้เร็วๆ สามารถเข้าไปเลื่อนได้ แต่ก็ต้องมีวันว่างด้วย สำหรับคนอยากได้เร็วๆ

สัมภาษณ์และทดสอบ

เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย ตามที่ได้ Submit ไปในขั้นตอนการส่งใบสมัคร ในใบนัดหมาย จะมี checklist เอกสารที่ต้องเอาไปด้วย

ไปตามเวลาที่นัดเอาไว้ ไปก่อนแค่ 10 นาทีพอ เพราะกระทรวงยัง Implement COVID rules อยู่ โดยให้เฉพาะคนที่มี appointment เข้าไปเท่านั้น เมื่อเข้าไปแล้ว ก็จะมีการเช็คชื่อ และให้ไปตาม Couter ที่ระบุเอาไว้

ขั้นแรกจะเป็นการสัมภาษณ์ ซึ่งก็ไม่มีอะไร จะเป็นการ Cross Check ข้อมูล ตามที่กรอกเอาไว้ในใบสมัคร จากนั้นก็จะมีการถ่ายรูป

หลังจากนั้น เราจะได้รับใบบอก Username สำหรับไป Login เข้าคอมพิวเตอร์สำหรับสอบขอสัญชาติ ในขั้นนี้ ต้องปิดโทรศัพท์ ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารทั้งหลาย ห้ามถ่ายรูป เข้าไปแล้ว จะเป็นการสอบกับคอมพิวเตอร์ เหมือนสอบ PTE ใส่ Username เข้าไปแล้วจะมีการถาม confirm ชื่อตัวเอง กรณีครั้งแรกไม่ผ่าน สามารถสอบอีกทีได้ 2 รอบ ในวันเดียวกัน

ข้อสอบจะไม่เหมือนกับใน Practice Test จะเป็นการ Random จากหนังสือ Common Bond -https://immi.homeaffairs.gov.au/citizenship-subsite/files/our-common-bond-testable.pdf
ภาคภาษาไทย https://immi.homeaffairs.gov.au/citizenship-subsite/files/our-common-bond-testable-thai.pdf

ข้อสอบค่อนข้างยากถ้าไม่เตรียมตัวมา หรือภาษาอังกฤษไม่คล่อง มีฝรั่งนั่งข้างๆ ทำ 3 รอบไม่ได้ ร้องไห้กลับบ้าน ต้องกลับมาสอบใหม่อีกรอบนึง การสอบ ต้องได้คะแนน 75% ขึ้นไป และต้องตอบคำถามเรื่อง Australian Value ให้ถูกทุกข้อ ถึงจะผ่าน

สำหรับตัวเอง เพราะเตรียมมาแต่ Pratice Test เลยรู้แต่ที่มีใน Practice Test เจอข้อสอบไปถึงกับอึ้งไปพักนึง แต่ตั้งสติ และทำสอบเสร็จภายใน 10 นาที ผลปรากฏว่าได้ 95% ผ่านการทดสอบ

ได้รับการอนุมัติ

หลังจากทดสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปกติ ถ้าใบสมัครไม่มีปัญหาอะไร จะได้รับการอนุมัติภายในวันเดียวกันเลย แต่บางกรณี อาจจะต้องรอ 1–3 สัปดาห์เพื่อให้ใบสมัครได้รับการอนุมัติ

เมื่อใบสมัครได้รับการอนุมัติ จะได้รับเมลล์เข้ามา บอกว่า ใบสมัครขอสัญชาติอนุมัติแล้ว

พิธีรับสัญชาติ

จากนั้น ก็จะต้องรอจนกว่า Council ที่ตัวเองอยู่ มีพิธีรับสัญชาติ และมีชื่อตัวเอง Nominated อยู่ในพิธีรับสัญชาติรอบนั้นๆ ซึ่งระยะเวลารอก็ขึ้นอยู่กับแต่ละ Council ว่าจัดสรรอย่างไร และมี Backlog ตกค้างเยอะขนาดไหน

เมื่อได้รับการจัดสรรเข้าพิธีรับสัญชาติแล้ว ทางรัฐบาล จะส่ง Email เข้ามาเพื่อบอกให้ไปเข้าพิธีรับสัญชาติ ตามวันเวลาที่ระบุเอาไว้ ซึ่งก็ควรจะไปตามวันเวลาที่ให้ เพราะถ้าไปไม่ได้ ก็จะต้องเลื่อนไปอีก และถ้าภายใน 12 เดือน หลัง Approval แล้ว ยังไม่ได้รับสัญชาติ ใบสมัครจะโดน Cancel แล้วต้องสมัครใหม่ตั้งแต่ต้น (PR ยังอยู่ แต่ต้องยื่นใบสมัคร Citizen ใหม่หมดเลย)

สำหรับพิธีการรับสัญชาติ ก็จะต่างกันไป ของแต่ละ Council แต่โดยคร่าวๆ จะเป็นการลงทะเบียนก่อน แล้วจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะแจกซองเอกสาร ที่ข้างในจะมี Citizenship Certificate และ Pledge สำหรับกล่าวปฏิญานตน นอกนั้นจะมีเอกสาร(ขยะ)จากทาง Council และเอกสารเกี่ยวกับ AEC ซึ่งทำหน้าที่จัดเลือกตั้งของประเทศ แนะนำวิธีการลงทะเบียนเลือกตั้ง

พิธีการรับสัญชาติ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม โดยตอนแรกจะเป็นการกล่าวต้อนรับโดยนายกของ Council จากนั้นจะมีการโชว์จากทาง Council จากนั้นเป็นการกล่าวคำปฏิญาน โดยคำกล่าว under god จะกล่าวก่อน ส่วนคนเลือกแบบไม่มี under god จะกล่าวทีหลัง (เลือกได้ตอนสมัคร Citizenship) หลังจากกล่าวไปแล้ว จะถือว่า เราเป็นคน Australian โดยสมบูรณ์​ จากนั้น เป็นการร้องเพลง โดย Council ที่อยู่ จะมีสองเพลง คือ I’m Australian กับเพลงชาติ Advanced Australia Fair จากนั้น ก็จะเปิดโอกาสให้ถ่ายรูป โดยมีซุ้มให้ถ่ายรูป และมีของว่างให้กิน (โดยมากเด็กจะกินกันเป็นส่วนใหญ่) ก่อนเดินทางกลับบ้าน

หลังจากการรับสัญชาติ

เมื่อได้รับสัญชาติแล้ว จะถือว่าเราเป็นคนออสเตรเลียเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น วีซ่า PR จะหายไปด้วย การเดินทางออกนอกประเทศ จะจำเป็นต้องเดินทางออกด้วย Australian Passport โดยสมัครได้ทาง www.passports.gov.au ปกติจะใช้เวลาประมาณ 4 weeks แต่สามารถจ่ายเงินเพื่อทำ Priority Process ได้ การขอ Passport ที่นี้จะแปลกอย่างหนึ่ง คือต้องมี Referee สำหรับรับรอง ในการขอ Passportโดยคนรับรองจะต้องเป็น Australian Citizen และรู้จักกันมาขั้นต่ำ 12 เดือน

นอกนั้น สำหรับคนที่อาศัยอยู่ข้างในนี้ หน้าที่สำคัญ คือการไปเลือกตั้งทั้งระดับรัฐ และระดับ Federal (กรณีอยู่ข้างใน ถ้าไม่ไปเลือกตั้งโดยไม่มีเหตุอันควร เป็นความผิดทางอาญา มีโทษปรับ) ลงทะเบียนเลือกตั้งได้ทางเว็บไซต์ https://www.aec.gov.au/

ส่วนถ้าใครที่ได้สัญชาติแล้ว เดินทางกลับไทย หรือเดินทางไปที่อื่น ก็จะติดตามข่าวจากสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย หรือประเทศอื่นที่ตัวเองพำนัก เพื่อใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ กรณีที่ตัวเองต้องการใช้สิทธิ์

การเดินทางด้วยหนังสือเดินทางออสเตรเลีย

หนังสือเดินทางออสเตรเลีย เดินทางไปได้หลายประเทศไม่ต้องขอวีซ่า แต่สำหรับบางประเทศก็จะต้องมีการลงทะเบียนล่วงหน้าก่อน เพื่อเป็นการ Screening และขอ Travel Authorization ซึ่งโดยมาก ถ้าไม่มีอะไรขัดข้อง ระบบก็จะอนุมัติอัตโนมัติ ประเทศที่ต้องขอเช่น

อเมริกา — ESTA — https://esta.cbp.dhs.gov/

เกาหลี — K-ETA — https://www.k-eta.go.kr/portal/apply/index.do

แคนาดา — ETA — https://www.canada.ca/en/immigration-refugees-citizenship/services/visit-canada/eta.html

ยุโรป เริ่มเร็วๆนี้ แต่ยังไม่มีรายละเอียดออกมา

สำหรับการเดินทางกลับไทย ตอนเช็คอิน โชว์หนังสือเดินทางสองเล่ม ตอนถึงประเทศไทย ให้โชว์แต่เล่มของไทยอย่างเดียวเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น (โดยมากจะไม่มีอะไร แต่บางคนที่เจอเจ้าหน้าที่ที่ค่อนข้างเข้มงวด จะโดนว่ากลับว่าถือสองสัญชาติไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทำได้แค่นี้เท่านั้น เพราะกฏหมายไม่มีข้อระบุเอาไว้ว่ามีความผิดอย่างไร)

--

--

Napawan Srisuksawad
Napawan Srisuksawad

Written by Napawan Srisuksawad

ณปวัน ศรีสุขสวัสดิ์ Thai born and bred. Currently living in Sydney, NSW, Australia. IT Professional

No responses yet